อยากขออนุญาตนำมาแบ่งปันบทสรุปความรู้ใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้
พิมพ์ไว้โน้ตให้ตัวเองไม่ลืมด้วยนะคะ เป็นหัวข้อที่น่าสนใจมาก เหมาะกับครู โรงเรียน พ่อแม่ และผู้ที่สนใจการศึกษาค่ะ
ความรู้ คำอธิบายของ EF แบบเข้าใจง่ายๆ มากขึ้น และยกตัวอย่างง่ายๆ
สิ่งที่ครูยุคปัจจุบันควรทำคือกระตุ้นให้เด็กตื่นตัว สร้างความตั้งใจ ค้นหาความสนใจ จากนั้นให้โอกาสเด็กได้พัฒนาการควบคุมตนเอง การคัดกรอง การคัดเลือก
การสบตาเป็นบ่อเกิดของการเรียนรู้ ( ตรงกับหลัก SI ของ OT เลยค่ะ ) ทุกอย่างเริ่มต้นที่ขวบปีแรก ดังนั้นคุณหมอถึงบอกว่า อย่าหาเรื่องทำให้ลูกไม่สบตาแม่ตั้งแต่แรกคืองดหน้าจอก่อน 2 ขวบ
นอกจากสบตาแล้วการชี้ยังสำคัญ เพราะการสบตาและการชี้เป็นส่วนสำคัญของปฏิสัมพันธ์ในสังคม
เด็กทุกคนรวมทั้งเด็กพิเศษ เด็กมีฟิสิกส์และเรียนรู้ความตั้งใจ ของพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่แสดงออกได้
สมองเด็กพัฒนาตลอดเวลาในขวบปีแรก ขวบปีแรกจำนวนจุดเชื่อมต่อประสาทเกิดและดับตลอดวเลา แม้จะรู้ว่า กระบวนการตัดแต่งสมองเริ่มเข้มข้นที่อายุ 9-12 ขวบ แต่ที่จริงเริ่มมาตั้งแต่แรกเกิด
เด็กช้าไม่ได้แปลว่าช้าทุกเรื่อง ไอคิวต่ำกว่าเส้นปกติมิได้แปลว่าพัฒนาไม่ได้
เด็กพัฒนาความจำใช้งานด้านภาพได้ดีกว่าและเร็วกว่าความจำใช้งานด้านเสียง การเปลี่ยนผ่านจากความจำใช้งานด้านภาพ ไปสู่ความจำใช้งานด้านเสียง เกิดขึ้นระหว่างอายุ 5-10 ขวบ
ในเด็กสติปัญญาบกพร่อง (ID) กลไกที่เสียหายคือ verbal rehearsal ใน phonological loop เพราะพวกเขาไม่มี word length effect
ถ้าอยากช่วยเด็กช้า สิ่งที่ควรทำทันที คือ อ่านและเล่นมากกว่าเดิม ความหวังคือเสียงที่ได้ยินจากพ่อแม่จะยืดระยะความจำใช้งานออกไป และการเล่นจะกระตุ้นให้เขาสามารถพูดกับตนเอง
เราใช้ cookies เพื่อเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าของคุณ กด ยอมรับ เพื่อเลือกซื้อสินค้าต่อ หรือตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย cookies ของเราได้ ที่นี่